0
Archive
สาเหตุของอาการปวดหลัง : ท่าร่างกายผิดไปจากธรรมชาติ
ท่าที่ถือว่าเป็นธรรมชาติของหลัง คือ ท่าที่เรายืนตรงยืดหลังตรงแบะไหล่ออกจากกัน อันเป็นท่ายืนผึ่งผายแบบทหาร หากเราสามารถรักษาหลังของเราให้อยู่ในท่าทีได้ตลอดเวลานั้นเป็นเรื่องที่ดีที่สุด เพราะจะไม่มีโรคปวดหลังมารบกวน แต่ในความเป็นจริงเราไม่ได้ยืนยามเป็นทหารเฝ้าประตูวัง ดังนั้นอาการปวดหลังส่วนใหญ่จึงมีสาเหตุมาจากท่าของร่างกายในชีวิตประจำวันที่บิดเบี้ยว อันสร้างความกดดันให้กับหลังของเราดังนี้ ท่าจำเป็นสำหรับงานอาชีพ การก้มๆ เงยๆ ทำงาน การเอี้ยวตัวทำงาน เช่น หมอฟันที่ต้องทำงานในช่องแคบๆ แม้เก้าอี้ทำฟันจะอำนวยความสะดวกให้มากแล้วก็ตาม ท่าถนัดที่ใช้ในการทำงานของตัวหมอฟันเองก็มีส่วนทำให้ปวดหลังหรือไม่ปวดหลัง การแบกของหนักหรือการยกของจากพื้นโดยใช้หลังดึงน้ำหนักขึ้นมาอย่างเต็มที่ การเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ
สาเหตุของอาการปวดหลัง : ศูนย์ถ่วงของร่างกายเปลี่ยน ความอ้วนและการหิ้วของหนัก
การยืนนานๆ โดยใส่รองเท้าส้นสูง จะทำให้เกิดอาการปวดหลังได้เพราะศูนย์ถ่วงของร่างกายเปลี่ยนเกิดแรงกดดันต่อกล้ามเนื้อหลัง ความอ้วนก็เช่นเดียวกันเมื่อรูปร่างของเราเปลี่ยนไป พุงพลุ้ย กล้ามเนื้อหลังต้องรับน้ำหนักมากขึ้น การหิ้วของเวลาช็อปปิ้งหนักๆก็ทำให้ปวดหลังได้ ตามสถิติพบว่าการหิ้วของตั้งแต่ 5 – 50 กก. จากการช็อปปิ้งที่เดินค่อนข้างนานสามารถก่อให้เกิดอาการปวดหลังได้ ถ้าคนที่เพลียอยู่ก่อนมีอาการของโลหิตจาง หรือมีอาการหลังฟื้นไข้จะปวดหลังได้ง่ายกว่า
อาการหลังแข็ง
สำหรับกล้ามเนื้อหลัง ในผู้ชายจะมีกล้ามเนื้อเป็นลำแข็งกว่าในผู้หญิง แผ่นหลังของผู้หญิงจะมีไขมันแทรกอยู่ระหว่างกล้ามเนื้อกับผิวหนัง ทำให้ดูกลมกลึงมากกว่า แต่ที่แท้กล้ามเนื้อหลังของผู้หญิงจะมีน้อยกว่าผู้ชาย หน้าที่ของกล้ามเนื้อหลัง คือ ทำหน้าที่เคลื่อนตัวไปในทิศทางต่างๆ ดังที่เจ้าตัวต้องการ หากกล้ามเนื้อหลังเกร็งตัวขึ้นมาเมื่อใดจะทำให้เจ้าตัวรู้สึกปวดหลัง ถ้ากดบริเวณกล้ามเนื้อสองข้างกระดูกสันหลังจะรู้สึกเจ็บ แต่อาการเจ็บตรงที่ใดไม่ได้หมายความว่าตำแหน่งของความผิดปกติจะอยู่ที่ตรงนั้น สาเหตุของอาการเจ็บปวดอาจจะอยู่ห่างออกไป ยกตัวอย่างเช่น อาการปวดหลังที่มีพร้อมกับประจำเดือน แสดงว่าสาเหตุอยู่ไกลถึงในช่องเชิงกราน
ทำไมจึงปวดหลัง
สามารถกล่าวได้ว่าอาการปวดหลังที่เกิดขึ้น มีสาเหตุจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อสันหลัง ข้อ กระดูก และเนื้อเยื่ออ่อนรอบกระดูกสันหลัง ในบริเวณนี้มีปลายประสาทอยู่มากและเส้นประสาทเองก็อาจถูกกดทับ หรือถูกดึงรั้งก่อให้เกิดอาการปวดประสาทตามมา ไขสันอันเป็นประสาทส่วนกลางที่อยู่ในกระดูกถูกกระทบกระเทือนโดยความผิดรูปของกระดูกหรืออาการบาดเจ็บของกระดูก แต่กระนั้นก็ตามอาการปวดหลังส่วนหนึ่งไม่ได้มีสาเหตุมาจากหลังโดยตรงอาการปวดหลังเป็นอาการกว้างมากอาจจะเป็นหนึ่งในอาการของโรคหัวใจ โรคของหลอดเลือดแดงใหญ่ ของปอด ของอวัยวะในท้องและของอวัยวะในช่องท้องน้อยด้วย นอกจากนี้อาการทางประสาทเช่น ความกังวล อาการซึมเศร้า ยังอาจทำให้เกิดอาการปวดหลัง หรือบางครั้งก็ทำให้อาการปวดหลังที่มีสาเหตุจากข้างต้นที่กล่าวมาเป็นหนักขึ้นกว่าเดิม
ผักกาดหอม ผักเป็นยา ผักเพื่อสุขภาพ
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า ประเทศไทยเราในทุกจังหวัดมีปัญหาการขาดสารไอโอดีน ซึ่งภาวะการขาดไอโอดีนนี้ ทางการแพทย์ระบุว่าจะมีผลต่อการสร้างเซล์สมอง-ใยสมองของเด็กตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ โดยหากขาดอย่างรุนแรงจะส่งผลกระทบไปถึงพัฒนาการสติปัญญา “โรคเอ๋อ” นั่นเอง สถาบันวิจัยสาธารณสุขจึงได้ส่งเสริมให้มีการเสริมไอโอดีนในการปลูกผักเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เช่น ผักบุ้งจีน ผักคะน้า กระหล่ำปลี สะระแหน่ โหระพา กะเพรา และผักสลัดยอดฮิตอย่างผักกาดหอม ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ต่อไปคนไทยจะได้เป็นผู้บริโภคผักคุณภาพ รวมถึงยังช่วยแก้ปัญหาการขาดสารไอโอดีนไปพร้อมๆกัน
เมนูมรณะ กับ หมูกระทะ เชื้อแบคทีเรีย สเตรปโตคอคคัส ซูอิส
เป็นที่ทราบกันว่าในหมูดิบมีเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคลัส ซูอิส ซึ่งมีอันตรายทำให้เสียชีวิต หรือหูหนวกตลอดชีวิตได้ โดยระยะตัวของโรคจะอยู่ที่ระยะ 1-3 วัน อาการที่พบได้แก่ มีไข้ คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ เหยื่อหุ้มสมองอักเสบ ข้ออักเสบ ม่านตาอักเสบ ผู้ป่วยอาจสูญเสียการได้ยิน จนถึงขั้นหูหนวกภายหลังที่หายจากอาการป่วยแล้วอาจมีอาการผิดปกติในการทรงตัว บางรายติดเชื้อในกระแสเลือด บางรายอาจมีอาการผื่นขึ้น หลอดเลือดอักเสบ และอุจจาระร่วง หากรุนแรงจะทำให้เสียชีวิต ส่วนผู้ที่รอดชีวิตอาจมีความพิการหลงเหลือ เช่น หูหนวกทั้ง 2 ข้าง หรือเป็นอัมพาตครึ่งซีก และหากผู้ป่วยได้รับการรักษาช้าอาจทำให้เชื้อแบคทีเรีย ทำลายเหยื่อหุ้มสมอง จนถึงขั้นเสียชีวิตได้โดยหากไม่ได้รับการรักษาผู้ป่วยจะเสียชีวิตภายใน
อาหารเช้ากับเมนูสุขภาพง่ายๆ
หลายคนอาจรู้สึกยุ่งยากถ้าจะต้องลุกขึ้นมาทำอาหารเช้า ความจริงแล้วยังมีอาหารเช้าแบบง่ายๆที่ใช้เวลาเพียงเล็กน้อย แต่ยังให้คุณค่าและทำให้สุขภาพของเรานั้นดีขึ้นอีกด้วย เรามาดูกันเลย ซีเรียล เลือกซีเรียลแบบโฮลเกรนดีที่สุดเพราะเต็มไปด้วยส่วนผสมที่เป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดดี ควรเลี่ยงซีเรียลที่เติมน้ำตาล (บางยี่ห้อมีน้ำตาลมากกว่า 20 กรัมต่อซีเรียล 100 กรัมเลยทีเดียว) ซึ่งจะทำให้ค่ากลูโคสสูง ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูง และจะทำให้คุณหิวอาหารเร็วขึ้นกว่าปกติอีกด้วย.
อวัยวะภายในที่ผิดปกติทำให้เกิดอาการปวดหลังได้
———-อวัยวะภายในที่ผิดปกติไปก็จะทำให้เกิดอาการปวดหลังร่วมด้วย ส่วนมากเป็นอวัยวะที่วางอยู่แนบกับหลัง ได้แก่ ไต ตับอ่อน นอกจากนี้ความผิดปกติที่หัวใจ หลอดเลือดแดงใหญ่ ปอด เยื่อหุ้มปอด ถุงน้ำดี ก็ทำให้เกิดอาการปวดร้าวมาทีหลังได้ ———-กรวยไตอักเสบเฉียบพลันทำให้เกิดอาการปวดหลังอย่างมากแต่อาการปวดหลังแบบนี้มักจะเกิดร่วมกับอาการไข้และหนาวสั่นโรคนิ่วในไตก็เป็นสาเหตุทำให้ปวดหลังเรื้อรัง นิ่วในท่อไตก็ทำให้ปวดหลังได้ โรคนิ่ววินิจฉัยได้โดยเอกซเรย์ ถ้าเป็นนิ่วก็ต้องรักษาแบบนิ่ว คือ ใช้คลื่นเสียงสลายนิ่วหรือผ่าตัดออก อาการปวดหลังจะหายไปเอง ———-สำหรับตับอ่อนถ้าเกิดอาการอักเสบก็ทำให้ปวดหลังอย่างรุนแรงความผิดปกติในช่องท้องน้อยก็ทำให้ปวดหลังได้ แต่มักจะปวดบริเวณกระเบนเหน็บ อาการปวดแบบนี้เรียกว่า ปวดตู่ (Refer pain) เช่น เวลาปวดประจำเดือนก็มักจะปวดหลังร่วมด้วย มดลูกอักเสบ ปีกมดลูกอักเสบบางครั้งก็ปวดหลังได้ ซึ่งถ้าหากสงสัยก็ควรได้รับตรวจวินิจฉัยและรักษาให้ถูกเรื่องถูกราวไป ———-สรุปแล้ว
มารู้จักกับกล้ามเนื้อสันหลังกัน
———-ถัดจากกระดูกสันหลังออกมาเป็นกล้ามเนื้อสันหลังที่เกาะเป็นแนวยาวตลอดสันหลัง กล้ามเนื้อกลุ่มนี้จะทำหน้าที่ป้องกันกระดูกสันหลังและไขสันหลังอีกทอดหนึ่ง เนื่องจากเราพบบ่อยๆ ว่า เมื่อใดก็ตามที่กระดูกสันหลังเกิดอาการบาดเจ็บ กล้ามเนื้อที่อยู่ข้างๆ กระดูกสันหลังกลุ่มนี้จะเกร็งตัวคล้ายกับจะดามส่วนที่บาดเจ็บเอาไว้ แล้วนี่เองที่ทำให้รู้สึกปวดหลัง หรือหลังแข็ง ———-จะว่าอาการปวดหลังนั่นแหละมีประโยชน์ ทำให้เราไม่กล้าเคลื่อนไหว อย่างก้ม เงย เอี้ยวตัว หรือบิดตัวมากนักเพราะหากไม่มีกล้ามเนื้อเกร็งตัวรับเอาไว้ การเคลื่อนไหวที่มากเกินไปจะทำให้กระดูกสันหลังที่เป็นข้อๆ บิดเบียดเส้นประสาทที่มุดออกมาจากรูกระดูกได้ง่ายขึ้น หรือถ้ามีกระดูกแตกหรือร้าวอยู่ก่อนอาจจะบาดส่วนนิ่มของไขสันหลังกับเส้นประสาทให้เกิดอาการบาดเจ็บหนักข้อขึ้นไปอีกถึงขั้น กล้ามเนื้อ แขนขา ลีบหรืออัมพาต
มารู้จักกับหมอนรองกระดูกสันหลังและไขสันหลังกัน
หมอนรองกระดูกสันหลัง ———-กระดูกสันหลังในช่วงอกและท้องมีรูปร่างคล้ายกัน คือ ด้านหน้าจะเป็นรูปกลมมน มีรูกลวงตรงกลางให้ไขสันหลังลอดออกไป ก้านหลังมีลักษณะคล้ายหลังคาและมีปีก กระดูกสันหลังแต่ละข้อต่อกันที่กระดูกด้านหน้า ระหว่างแต่ละข้อมีแผ่นกระดูกอ่อนสีขาวๆ ขั้นอยู่ เรียกว่าหมอนรองกระดูก วิ่งหาดูได้จากกระดูกสันหลังของหมูหรือวัวตามตลาด ———-เจ้าหมอนรองกระดุกสันหลังมีหน้าที่สำคัญมากเพราะทำหน้าที่กันกระแทก และคอยรับแรงกดแรงบดที่ข้อกระดูกแต่ละข้อจะเบียดสีกันจากการเคลื่อนไหวของเจ้าตัว ภายในหมอนรองกระดูกยังมีวุ้นหยุ่นๆ ซึ่งทำให้มันกันแรงกระแทกได้เป็นอย่างดียิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหากแรงกระแทกมีมากเกินไป หมอนรองกระดูกอาจจะบวม หรือเคลื่อนที่ออกมากดทับเส้นประสาทสันหลัง ในกรณีแรกจะทำให้เกิดอาการปวดหลังรุนแรง และกรณีหลัง ทำให้ปวดหลังและร้าวลงไปที่ขาตามแนวของเส้นประสาท ไขสันหลัง ———-ภายในกระดูกสันหลังมีช่องให้ไขสันหลังแล่นผ่านโดยตลอด และกระดูกสันหลังมีหน้าที่โดยตรงที่จะป้องกันอันตรายมาสู่ระบบประสาทส่วนนี้ และนี่คงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้กระดุกสันหลังไม่อาจเคลื่อนที่รอบทิศทางอย่างกระดูกข้อไหล่ ไขสันหลังที่ทอดยาวไปจะไม่สิ้นสุดตรงระดับกระดูกเอวที่ 1- 2